สัญลักษณ์ในงานเชื่อมคืออะไร
สารบัญ
สัญลักษณ์ในงานเชื่อม (Weld Symbols) คือสัญลักษณ์ที่ใช้เพื่อสื่อสารระหว่างฝ่ายออกแบบกับฝ่ายผลิตที่เกี่ยวข้องกับงานเชื่อมให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันตามมาตรฐานที่กำหนด โดยมาตรฐานของสัญลักษณ์งานเชื่อมที่นิยมใช้มากที่สุดคือ มาตรฐานสากล (ISO : International Standardization Organization) และมาตรฐานอเมริกา (AWS : American Welding Stardard) ซึ่งในบทความนี้เราจะอ้างอิงมาตรฐาน ISO เป็นหลัก
ส่วนประกอบของสัญลักษณ์งานเชื่อมมีอะไรบ้าง
สัญลักษณ์ในงานเชื่อมเกิดจากการรวมกันของรายละเอียดต่างๆที่ต้องระบุให้ครบถ้วนชัดเจน เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานเชื่อมสามารถเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ของสัญลักษณ์ที่ระบุมาในแบบได้อย่างถูกต้อง สัญลักษณ์งานเชื่อมมีส่วนประกอบดังนี้
- เส้นหัวลูกศร จะชี้ไปยังจุดที่ต้องการทำการเชื่อม หัวลูกศรสามารถหันได้ทั้งด้านขวา ด้านซ้าย ด้านบนหรือด้านล่าง และเส้นลูกศรจะทำมุม 60 องศากับเส้นแนวราบของตำแหน่งที่ชี้
2. เส้นอ้างอิงต่อเนื่อง คือเส้นที่เชื่อมต่อกับเส้นหัวลูกศรเขียนขนานกับแบบงานใช้เพื่อวางตำแหน่งของสัญลักษณ์แนวเชื่อม โดยถ้าต้องการเชื่อมด้านเดียวกับหัวลูกศรชี้จะเขียนสัญลักษณ์แนวเชื่อมติดกับเส้นอ้างอิงต่อเนื่องอาจอยู่ด้านบนหรือด้านล่างของเส้น ในกรณีที่เชื่อมทั้ง 2 ด้าน จะเขียนสัญลักษณ์แนวเชื่อมติดกับเส้นอ้างอิงต่อเนื่องทั้งบนและล่าง
3. เส้นอ้างอิงเส้นประ จะเขียนให้ขนานกับเส้นอ้างอิงต่อเนื่อง สามารถอยู่ได้ทั้งด้านบนและด้านล่าง ใช้เพื่อวางตำแหน่งของสัญลักษณ์แนวเชื่อม โดยถ้าต้องการเชื่อมด้านตรงข้ามกับหัวลูกศรชี้จะเขียนสัญลักษณ์แนวเชื่อมติดกับเส้นอ้างอิงเส้นประอาจอยู่ด้านบนหรือด้านล่างของเส้น
4. สัญลักษณ์แนวเชื่อม คือส่วนที่บอกถึงลักษณะของงานเชื่อมที่ต้องการจะกำหนด โดยรูปแบบของสัญลักษณ์ส่วนใหญ่จะอ้างอิงมาจากรูปร่างของรอยเชื่อมจริงที่เกิดขึ้น เช่นการเชื่อมมุมฉาก การเชื่อมบากร่องวี การเชื่อมแบบสล็อต หรือการเชื่อมต่อชนไม่บาก เป็นต้น
5. ส่วนหาง เป็นส่วนที่ใช้บอกรายละเอียดเพิ่มเติมของงานเชื่อม เช่น กระบวนการเชื่อม ข้อมูลลวดเชื่อม หรือทิศทางในการเชื่อม เป็นต้น โดยส่วนหางนี้อาจจะมีหรือไม่ก็ได้
ทำความรู้จักรูปแบบของสัญลักษณ์แนวเชื่อม
สัญลักษณ์ในงานเชื่อมตามมาตรฐาน ISO 2553 : 1992(E) จะกำหนดลักษณะแนวเชื่อมรูปแบบต่างๆไว้เพื่อใช้ระบุลงไปในการเขียนแบบ ผู้ออกแบบจะต้องเลือกใช้สัญลักษณ์งานเชื่อมให้ถูกต้องและเหมาะสมกับชิ้นงานที่ต้องการจะเชื่อม โดยรูปแบบของสัญลักษณ์พื้นฐานที่ใช้กันทั่วไปมีได้ดังนี้
1. การเชื่อมต่อชนไม่บาก (Square Butt Weld)
2. การเชื่อมต่อชนบากร่องตัววีด้านเดียว (Single-V Butt Weld)
3. การเชื่อมต่อชนบากร่องตัววีสองด้าน (Double-V Butt Weld)
4. การเชื่อมต่อชนบากร่องเอียงด้านเดียว (Single-Bevel Butt Weld )
5. การเชื่อมต่อชนบากร่องเอียงด้านเดียวหน้าประชิดกว้าง (Single-Bevel Butt Weld With Broad Root Face )
6. การเชื่อมต่อชนบากร่องตัวยูด้านเดียว (Single-U Butt Weld)
7. การเชื่อมต่อชนบากร่องตัวเจด้านเดียว (Single-J Butt Weld)
8. การเชื่อมต่อชนขอบหน้าแปลน (Edge Weld on a Flanged Butt Joint )
9. การเชื่อมต่อฉาก (Fillet Weld )
10. การเชื่อมสล็อต (Slot Weld )
สัญลักษณ์เพิ่มเติม ( Supplementary Symbols)
คือสัญลักษณ์ที่ใช้บอกรายละเอียดที่ผู้เขียนแบบต้องการเพิ่มเติม ส่วนใหญ่จะวางด้านบนสัญลักษณ์แนวเชื่อมพื้นฐาน นอกจากนี้ยังมีการใช้ตัวอักษรเพื่อแสดงถึงการตกแต่งผิวแนวเชื่อมให้สวยงามหรือเพื่อจุดประสงค์ในการใช้งานอื่นๆจะวางไว้บนสัญลักษณ์เพิ่มเติมอีกที วิธีการแต่งผิวมีได้หลายแบบเช่น
- การเจียร (Grinding : G)
- การปาดผิวด้วยเครื่องจักร (Machining : M)
- การสกัด (Chipping : C)
- การใช้ค้อนทุบ (Hammering : H)
ตัวอย่างสัญลักษณ์เพิ่มเติมมีดังนี้
ผิวแนวเชื่อมเรียบ (Flat)
ผิวแนวเชื่อมโค้งนูน (Convex)
ผิวแนวเชื่อมโค้งเว้า (Concave)
เชื่อมรอบชิ้นงาน (Weld All Around)
การเชื่อมหน้างานหรือเชื่อมสนาม (Field Weld )
การกำหนดขนาดรอยเชื่อม
การกำหนดขนาดแนวเชื่อมคือการบอกค่าขนาดต่างๆของแนวเชื่อม สำหรับมาตรฐาน ISO ค่าตัวเลขจะมีหน่วยเป็นมิลลิเมตรและจะใช้ตัวอักษรเป็นตัวกำหนดตำแหน่งขนาดของแนวเชื่อมในแต่ละรูปแบบ ดังนี้
- a = ระยะลึกของสามเหลี่ยมหรือระยะโทรต (Throat)ของแนวเชื่อมต่อฉาก (Fillet Weld)
- z = ระยะขา (Leg) ของแนวเชื่อมต่อฉาก (Fillet Weld) : z=a√2
- s = ระยะความลึกจากผิวชิ้นงานถึงด้านล่างแนวเชื่อม
- c = ความกว้างแนวเชื่อมตะเข็บ (Seam Weld ) และแนวเชื่อมสล็อต (Slot Weld)
- d = ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางรอยเชื่อมอุดรู (Plug Weld) และรอยเชื่อมจุด (Spot Weld)
- e = ระยะเว้นของแนวเชื่อม (pitch)
- l = ความยาวแนวเชื่อม (Length)
- n = จำนวนแนวเชื่อม (Number of Welds)
หลักในการเขียนสัญลักษณ์ คือ ขนาดหรือความลึกแนวเชื่อมจะเขียนไว้ด้านซ้ายของสัญลักษณ์แนวเชื่อม ส่วนความยาว ระยะห่าง และจำนวนแนวเชื่อมจะเขียนไว้ด้านขวาของสัญลักษณ์แนวเชื่อมและถ้าด้านขวาไม่มีการระบุใดๆหมายถึงการเป็นเชื่อมต่อเนื่องตลอดความยาวชิ้นงาน
การกำหนดขนาดแนวเชื่อมแบบต่างๆ
การเชื่อมต่อฉาก (Fillet Welding)
- การเชื่อมต่อฉาก สามารถกำหนดขนาดได้ 2 วิธี คือ การบอกระยะโทรต (a) และการบอกระยะขา (z) ดังนั้นการบอกขนาดแนวเชื่อมต่อฉากจำเป็นต้องใส่วิธีการที่ต้องการจะบอกระยะไว้ด้วย เช่น a7 หรือ z5 และ
- การเชื่อมเป็นช่วงๆ รูปแบบการเขียนคือ สัญลักษณ์แนวเชื่อมฉากตามด้วย n x l(e)
- การเชื่อมเป็นช่วงๆ 2 ด้านแนวเชื่อมสลับกัน รูปแบบการเขียนคือ ลัญษณ์แนวเชื่อมฉาก ตามด้วย เส้นแสดงการสลับและ n x l(e) ทั้งด้านบนและล่างเส้นอ้างอิงต่อเนื่อง
การเชื่อมต่อชน (Butt Welding)
- การเชื่อมต่อชนมีหลายแบบแต่จะใช้การบอกขนาดด้วยระยะความลึกจากผิวชิ้นงานถึงด้านล่างแนวเชื่อม (s)
- การเชื่อมต่อเนื่องแบบเชื่อมยาวตลอดแนวจะไม่ระบุค่าใดๆหลังสัญลักษณ์แนวเชื่อมหรือเชื่อมตามความยาวที่กำหนดจะใช้เป็นค่า (l)
- การเชื่อมเป็นช่วงๆ รูปแบบการเขียนคือ สัญลักษณ์แนวเชื่อมตามด้วย n x l(e)
การเชื่อมสล็อต (Slot Welding) และการเชื่อมตะเข็บ (Seam Welding)
- กำหนดขนาดแนวเชื่อมโดยค่าความกว้างของแนวเชื่อม (c)
- การเชื่อมต่อเนื่องแบบเชื่อมยาวตลอดแนวจะไม่ระบุค่าใดๆหลังสัญลักษณ์แนวเชื่อมหรือเชื่อมตามความยาวที่กำหนดจะใช้เป็นค่า (l)
- การเชื่อมเป็นช่วงๆ รูปแบบการเขียนคือ สัญลักษณ์แนวเชื่อมสล็อตหรือตะเข็บตามด้วย n x l(e)
การเชื่อมอุดรู (Plug Welding) และการเชื่อมจุด (Spot Welding)
- กำหนดขนาดแนวเชื่อมโดยค่าเส้นผ่านศูนย์กลางของรูเจาะหรือเส้นผ่านศูนย์กลางของรอยเชื่อมจุด (d)
- การเชื่อมเป็นช่วงๆ รูปแบบการเขียนคือ สัญลักษณ์แนวเชื่อมอุดรูหรือแนวเชื่อมจุดตามด้วย n x (e)
จบไปแล้วน่ะครับสำหรับความรู้เรื่องสัญลักษณ์พื้นฐานที่ควรรู้ในงานเชื่อมโลหะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆที่สนใจในงานเขียนแบบหรืออ่านแบบที่มีงานเชื่อมมาเกี่ยวข้อง