การเลือกและใช้งาน เกจวัดความดัน ในงานวิศวกรรม
สารบัญ
เกจวัดความดัน หรือ เกจวัดแรงดัน เป็นเครื่องมือวัดที่ขาดไม่ได้เลยไม่ว่าจะเป็นในระบบเครื่องจักร หรือระบบท่อ ตัวของเกจวัดความดันมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้งานมากมาย ในบทความนี้เรามาดูกันครับว่า เกจวัดแต่ละชนิดเหมาะกับงานอะไร และเราจะมีวิธีการเลือกเกจวัดความดันอย่างไร ทั้งหมดนี้หาคำตอบได้ในบทความนี้
เกจวัดความดัน (Pressure Gauge) คืออะไร
เกจวัดความดัน (Pressure Gauge) เป็นเครื่องมือวัดและตรวจสอบแรงดันที่ขาดไม่ได้เลยในงานวิศวกรรมต่างๆ โดยสามารถวัดและตรวจสอบแรงดันของของเหลวหรือก๊าซภายในระบบ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรับประกันคุณภาพและความปลอดภัยในการทำงานของระบบต่างๆ ในอุตสาหกรรม
ส่วนประกอบพื้นฐานของ เกจวัดความดัน (Pressure Gauge)
เรามาดูส่วนประกอบสำคัญของเกจวัดความดันแบบชนิดหน้าปัด กันครับว่ามีอะไรบ้าง
- หน้าปัด จะประกอบกระจก ทำหน้าที่ครอบปิดตัวเรือนของเกจวัดความดัน มีหลายขนาดให้เลือกใช้งานโดยขึ้นอยู่กับพื้นที่ในการติดตั้ง ตัวอย่างเช่น 50mm., 63 mm., 100 mm. เป็นต้น
- ตัวเรือน ทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์สำหรับติดตั้งอุปกรณ์ภายในต่างๆ มีวัสดุให้เลือกใช้งานมากมาย เช่น ทองเหลือง สแตนเลส เป็นต้น
- เข็ม ทำหน้าที่เป็นตัวบ่งชี้ค่าแรงดันที่เกจวัดสามารถอ่านได้ โดยตัวเลขที่เข็มชี้นั้น คือ แรงดันที่สามารถอ่านค่าได้ ณ เวลานั้นๆ
- ขนาดของข้อต่อ เป็นส่วนที่ใช้สำหรับเชื่อมต่อเกจวัดความดัน เข้ากับข้อฟิตติ้ง เพื่อทำการวัดแรงดันในบริเวณนั้นๆ มีหลายขนาดให้เลือกใช้งาน เช่น 1/4“ หรือ 2 หุน , 1/2“ หรือ 4 หุน เป็นต้น
- ตำแหน่งของข้อต่อ เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่มีผลต่อการติดตั้งในพื้นที่ต่างๆ
- ช่วงของการวัด เป็นค่าสเกลตัวเลขที่เกจวัดความดัน สามารถอ่านค่าได้ โดยเพื่อนๆ สามารถพบเห็นได้ด้วยกัน 3 แบบ คือ แบบ Normal, แบบ Vacuum และ แบบ Compound (ซึ่งจะกล่าวโดยละเอียดในหัวข้อถัดไป๗
- หน่วยวัด เป็นหน่วยของแรงดันที่สามารถอ่านค่าได้ โดยในเกจวัดความดันแต่ละแบบก็จะมีหน่วยวัดให้เลือกใช้งานที่หลากหลาย เช่น bar, psi, MPa
- น้ำมัน เกจวัดความดันบางชนิดจะมีน้ำมันกลีเซอรีน อยู่ภายในของหน้าปัดของเกจวัด ทำหน้าที่ช่วยลดการสั่นของเข็มและช่วยลดแรงกระชากของแรงดัน ในกรณีที่ระบบเกิดการเปลี่ยนแปลงความดันแบบฉับพลัน
เกจวัดความดัน (Pressure Gauge) มีกี่ชนิด
เกจวัดความดัน (Pressure Gauge) สามารถแบ่งออกได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่ว่าเราจะแบ่งตามความสำคัญของอะไร เช่น แบ่งตามย่านในการวัดความดัน, แบ่งตามรูปแบบการแสดงผล, เป็นต้น โดยในบทความนี้เรามีตัวอย่างการแบ่งชนิดของเกจวัดความดันมาให้ดูกันครับ
เกจวัดความดัน (Pressure Gauge) แบ่งตามย่านในการวัด จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิด คือ
เกจวัดความดันบรรยากาศ (Pressure Gauge)
1.เกจวัดความดันบรรยากาศ (Pressure Gauge) เป็นเกจวัดความดันที่พบเห็นกันได้ทั่วไป สเกลของเกจวัดจะเห็นได้ว่า จะเริ่มตั้งแต่ค่า 0 เป็นต้นไป มีค่าช่วงในการวัดให้เลือกใช้งานมากมาย ตั้งแต่ 0 – 0.5 MPa , 0 – 1 MPa
ตัวอย่างการใช้งาน : ใช้สำหรับวัดแรงดันของไหลทั่วไป เช่น แรงดันน้ำในระบบท่อส่งน้ำ เป็นต้น
เกจวัดความดันสุญญากาศ (Vacuum Gauge)
2.เกจวัดความดันสุญญากาศ (Vacuum Gauge) เป็นเกจวัดความดันที่ใช้สำหรับวัดความดันในสภาวะสุญญากาศ จะเห็นได้สเกลของเกจวัด จะเป็นค่าติดลบและสเกลค่ามากที่สุด จะเป็นค่า 0 ตัวอย่างเช่น -0.1 ถึง 0 MPa , 0 – 1 MPa
ตัวอย่างการใช้งาน : ใช้กับปั๊มสุญญากาศที่ในทางการแพทย์, ใช้ในการวัดแรงดันสุญญากาศในกระบวนการผลิต เช่น แรงดันสุญญากาศที่ใช้ในกระบวนการอบแห้ง และกระบวนการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
เกจวัดความดันแบบคอมปาวด์ หรือ คอมปาวเกจ์ (Compound Gauge)
3.เกจวัดความดันแบบคอมปาวน์ (Compound Gauge) เป็นเกจวัดความดันที่วัดได้ทั้งแรงดันในสภาวะปกติ และแรงดันในสภาวะสุญญากาศ จะเห็นได้สเกลของเกจวัด จะมีทั้งค่าติดลบและค่าติดบวก ในหน้าปัดเดียวกัน ตัวอย่างเช่น -0.1 ถึง 0.4 MPa ดังรูป
ตัวอย่างการใช้งาน : ใช้กับเครื่องอัดแรงดันอากาศ (Air compressor)
โดยด้านบวกของเกจ จะวัดแรงดันของอากาศอัด และด้านลบ จะวัดแรงดันสุญญากาศในถังเก็บลม, ใช้ในการวัดแรงดันในระบบทำความเย็น เช่น แรงดันของสารทำความเย็น
8 ขั้นตอนการเลือกเกจวัดความดันให้เหมาะสมกับงาน
- พิจารณาชนิดของของไหลที่จะนำเกจวัดความดันไปใช้งาน เช่น อากาศ, น้ำ เป็นต้น
- ช่วงความดันที่ใช้งาน : โดยพิจารณาแรงดันต่ำสุดและสูงสุดของระบบเครื่องจักรที่ใช้งาน
- หน่วยที่ใช้วัด : หน่วยของความดันมีหลายหน่วยให้เลือกใช้งานมากมาย ตัวอย่างเช่น Kg/㎡, psi., bar, MPa เป็นต้น
- เลือกประเภทของเกจวัดความดัน : เช่น เกจวัดความดันบรรยากาศ, เกจวัดความดันสุญญากาศ หรือ เกจวัดแรงดันแบบคอมปาวด์
- ขนาดของหน้าปัด : ถือเป็นอีกข้อควรพิจารณาเช่นกัน เพราะในบางครั้งขนาดใหญ่เกินไปก็ไม่สามารถติดตั้งในพื้นที่ที่จำกัดได้
- ขนาดและตำแหน่งของข้อต่อ : มีหลายขนาดให้เลือกใช้งาน เช่น 1/4“ หรือ 2 หุน , 1/2“ หรือ 4 หุน และอื่นๆ ในส่วนของตำแหน่งข้อต่อนั้นมีให้เลือกด้วยกัน หลายแบบ อาทิ แบบข้อต่อออกทางด้านล่าง, แบบข้อต่อออกทางด้านหลัง เป็นต้น
- วัสดุ : วัสดุของตัวเรือนมีส่วนสำคัญสำหรับเกจวัดความดัน โดยให้พิจารณาจากสภาพแวดล้อมในการใช้งาน ตัวอย่างวัสดุตัวเรือนที่ใช้ผลิตเกจวัดแรงดันได้แก่ ทองเหลือง, สแตนเลส, และพลาสติก
- คุณลักษณะเพิ่มเติม: พิจารณาคุณสมบัติเพิ่มเติมอื่นๆ ที่เพื่อนๆ อาจต้องการ เช่น สามารถเติมน้ำมันกลีเซอรีน เพื่อลดการสั่นของเข็มและช่วยลดแรงกระชากของแรงดัน ในกรณีที่ระบบเกิดการเปลี่ยนแปลงความดันแบบฉับพลัน
จบไปแล้วนะครับสำหรับบทความ “การเลือกและใช้งาน เกจวัดความดัน ในงานวิศวกรรม” เพื่อนๆ คงจะได้รับความรู้ไม่มากก็น้อยจากบทความนี้ ทั้งเกจวัดความดันชนิดต่างๆ รวมไปถึงวิธีการเลือกเกจวัดความดันเบื้องต้นอีกด้วย แล้วพบกับบทความที่น่าสนใจในสัปดาห์หน้า สวัสดีครับ