วัสดุของใบเลื่อยจิ๊กซอว์ และตัวเลข TPI สำคัญอย่างไร
สารบัญ
จากบทความ “3 เคล็ดลับการเลือกใบเลื่อยจิ๊กซอว์” เพื่อนๆ คงที่ทราบไอเดียเบื้องต้นในการเลือกใบเลื่อยให้เหมาะสมกับงานตัดของเพื่อนๆ กันไปแล้วใช่ไหมครับ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะด้ามจับหรือบ่าสวมของใบเลื่อยจิ๊กซอว์ และลักษณะของใบเลื่อย ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกในส่วนของการเลือกวัสดุของใบเลื่อยให้เหมาะกับงานตัดของเพื่อนๆ กันว่าทำอย่างไร และ ค่า TPI ของใบเลื่อยนั้นมีความสำคัญอย่างไร ทั้งหมดนี้หาคำตอบได้ในบทความนี้
วัสดุของใบเลื่อยจิ๊กซอว์
สำหรับวัสดุของใบเลื่อยจิ๊กซอว์ที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรม และหาซื้อง่ายยตามท้องตลาดนั้น หลักๆ จะแบ่งออกเป็น 4 ชนิด ดังนี้
1. ใบเลื่อยที่ผลิดจากเหล็กกล้าคาร์บอนสูง (High Carbon Steel – HCS) ใบเลื่อยชนิดนี้มีราคาถูกที่สุด มีความยืดหยุ่นสูง หักชำรุดยาก เหมาะกับการตัดวัสดุที่ไม่แข็งมาก เช่น ไม้ พลาสติก มักใช้ในงานตัดที่ต้องการความเรียบเนียนของผิวตัด ข้อสังเกตของใบเลี่อยชนิดนี้ จะมีการระบุอักษร “HCS” อยู่ที่ด้ามจับของใบเลื่อย
2. ใบเลื่อยที่ผลิดจากเหล็กกล้าความเร็วสูง (High Speed Steel – HSS) มีความแข็งมากกว่าใบมีดชนิด HCS จึงเหมาะแก่การตัดวัสดุที่มีความแข็งมากกว่า เช่น ทองแดงหรืออะลูมิเนียม โดยส่วนมากจะใช้กับงานตัดเหล็กเป็นหลัก ข้อเสียอย่างเดียวคือแม้จะมีความแข็งมาก แต่ก็มีความเปราะเช่นกัน ข้อสังเกตของใบเลี่อยชนิดนี้ จะมีการระบุอักษร “HSS” อยู่ที่ใกล้กับบริเวณด้ามจับของใบเลื่อย
3. ใบเลื่อยที่ผลิดจาก Bimetal (BIM) เป็นใบเลื่อยที่รวมเอาข้อดีของ HSS และ HCS มาไว้ด้วยกัน มันจึงสามารถใช้ตัดชิ้นงานที่มีความแข็งมากๆได้ ใบเลื่อยไม่ค่อยทื่อ/เสียคม แถมยังมีความยืดหยุ่น งอตัวได้ในระดับหนึ่ง ลดโอกาสใบเลื่อยหัก แต่ก็ถือเป็นชนิดใบเลื่อยที่มีราคาสูงเช่นกัน ข้อสังเกตของใบเลี่อยชนิดนี้ จะมีการระบุอักษร “BIM” อยู่ที่ใกล้กับบริเวณด้ามจับของใบเลื่อย
4. ใบเลื่อยที่ผลิดจาก ทังสเตนคาร์ไบด์ (Tungsten Carbide) สามารถทนความร้อนและแรงกระแทกได้ดี โดยบริเวณฟันเลื่อยจะถูกเคลือบไว้ด้วยผงคาร์ไบด์ตั้งแต่โคนจรดปลาย ไว้ตามซี่ฟันของใบเลื่อยเพื่อใช้สำหรับการตัดวัสดุที่มีความแข็งสูง เหมาะสำหรับงานตัดที่เฉพาะทาง เช่น เซรามิก หรือ Fiber Glass, ปูน, กระเบื้อง เป็นต้น
วิธีการเลือกใบเลื่อยโดยพิจารณาจากค่า Tooth Per Inch (TPI)
ในตัวอย่างนี้ ผมจะขอนำค่า TPI (Tooth Per Inch) สำหรับการตัดวัสดุแต่ละประเภทมาให้เพื่อนๆได้ดูกัน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพิจารณา เลือกซื้อใบเลื่อยกันครับ
- วัสดุประเภทไม้ มักจะใช้ค่า TPI ที่ไม่สูงมาก ประมาณ 6-20 ฟัน เนื่องด้วยไม้เป็นวัสดุที่มีความอ่อน สามารถตัดได้ง่าย โดยแนะนำให้ใช้งานร่วมกับใบมีดที่มีความยืดหยุ่นตัวได้ เช่น HCS
- วัสดุประเภทโลหะ เช่น ทองแดงหรืออะลูมิเนียม เนื่องจากมีความแข็งที่สูงกว่าไม้มาก จึงแนะนำให้ใช้ค่า TPI ที่ค่อนข้างสูง ประมาณ 20-35 ฟัน โดยแนะนำให้ใช้งานร่วมกับใบมีดที่มีทำจากวัสดุที่แข็งแรง เช่น HSS หรือ BIM เพื่อป้องกันปัญหาใบเลื่อยสึก/หัก
จากภาพเป็นการเปรียบเทียบจำนวนฟันเลื่อยของใบเลื่อยไม้ (ด้านบน) เทียบกับ จำนวนฟันของใบเลื่อยเหล็ก (ด้านล่าง) โดยใบเลื่อยไม้นั้น มีค่า TPI ต่ำ เพราะฟันเลื่อยมีขนาดใหญ่เพื่อใช้ในการกินเนื้อไม้ จึงไม่สามารถวางฟันชิดติดกันได้ ในขณะที่ใบเลื่อยเหล็กนั้น มีค่า TPI สูงกว่า เนื่องด้วยต้องให้ฟันเลื่อยเรียงตัวชิดกัน เพื่อเพิ่มความถี่ในการเลื่อยตัดเข้าเนื้อวัสดุที่มีความแข็งสูง
จบไปแล้วนะครับสำหรับ บทความ วัสดุของใบเลื่อยจิ๊กซอว์ และตัวเลข TPI สำคัญอย่างไร เพื่อนๆ คงจะได้รับความรู้ในการเลือกวัสดุของใบเลื่อยให้เหมาะสมกับงานตัดของเพื่อนๆ รวมไปถึงความสำคัญของตัวเลข TPI บนใบเลื่อยแต่ละชนิด เพียงเท่านี้การเดินเข้าไปเลือกซื้อใบเลื่อยจิ๊กซอว์ในครั้งหน้า ก็ไม่ใช่เรื่องน่าปวดหัวอีกแล้ว