อะไรคือความแตกต่างระหว่างสเต็ปเปอร์มอเตอร์และ เซอร์โวมอเตอร์
สารบัญ
ในการควบคุมการเคลื่อนไหวของเครื่องจักร มอเตอร์สองประเภทที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ได้แก่ เซอร์โวมอเตอร์ (Servo motor) และสเต็ปเปอร์มอเตอร์ (Stepper motor) แม้ว่ามอเตอร์ทั้งสองจะถูกใช้งานในลักษณะคล้ายกัน แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญระหว่างมอเตอร์ทั้งสองซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพ วิธีการควบคุม และราคา ในบทความนี้ เราจะอธิบายความแตกต่างระหว่างมอเตอร์ทั้งสองประเภทนี้ รวมถึงการทำงานพื้นฐาน ข้อดี ข้อเสีย และการใช้งาน
การทำงานพื้นฐานของสเต็ปเปอร์มอเตอร์ (Stepper motor) และ เซอร์โวมอเตอร์ (Servo motor)
สเต็ปเปอร์มอเตอร์ทำงานโดยแบ่งการหมุนทั้งหมดเป็นชุดของสเต็ปย่อยๆ โดยแต่ละสเต็ปจะถูกขับเคลื่อนโดยการจ่ายสัญญานไฟฟ้าให้กับขดลวดมอเตอร์ตามลำดับที่กำหนด โดยแกนของสเต็ปเปอร์มอเตอร์จะหมุน 1สเต็ปต่อสัญญานไฟฟ้า 1ลูกคลื่น ซึ่งสเต็ปเปอร์มอเตอร์เป็นที่รู้จักกันดีในด้านความแม่นยำสูง ต้นทุนต่ำ และใช้งานง่าย อย่างไรก็ตาม สเต็ปเปอร์มอเตอร์ไม่ได้ให้แรงบิดในระดับเดียวกับเซอร์โวมอเตอร์ และความเร็วของสเต็ปเปอร์จะไม่ได้สูงมากนัก
ในทางกลับกัน เซอร์โวมอเตอร์ใช้ระบบควบคุมวงปิด (Close loop control) เพื่อควบคุมตำแหน่งและความเร็ว เซอร์โวมอเตอร์ประกอบด้วยมอเตอร์ อุปกรณ์ป้อนกลับ และตัวควบคุม อุปกรณ์ป้อนกลับจะวัดตำแหน่งและความเร็วของมอเตอร์ และตัวควบคุมจะปรับสัญญาณอินพุตเพื่อรักษาตำแหน่งและความเร็วที่ต้องการ เซอร์โวมอเตอร์เป็นที่รู้จักกันดีในด้านแรงบิดสูง ความเร็วสูง และความแม่นยำสูง แต่ก็จะมีราคาที่สูงมากเช่นกัน รูปแบบการควบคุมจะแสดงตามแผนภาพด้านล่าง
ข้อดีและข้อเสีย
ข้อดีหลักประการหนึ่งของสเต็ปเปอร์มอเตอร์คือความเรียบง่าย ไม่ต้องใช้ระบบป้อนกลับ ทำให้ใช้งานและดำเนินการได้ง่าย นอกจากนี้ สเต็ปเปอร์มอเตอร์ยังมีราคาค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับเซอร์โวมอเตอร์ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการใช้งานที่มีงบประมาณน้อย นอกจากนี้สเต็ปเปอร์มอเตอร์ยังมีความแม่นยำของตำแหน่งสูงและสามารถรักษาตำแหน่งไว้ได้แม้ปิดเครื่อง
อย่างไรก็ตาม สเต็ปเปอร์มอเตอร์มีข้อเสียบางประการ มีแรงบิดและความเร็วที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับเซอร์โวมอเตอร์ นอกจากนี้ยังไม่มีการควบคุมในระดับเดียวกับเซอร์โวมอเตอร์ และประสิทธิภาพการทำงานอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น อุณหภูมิและการสั่นสะเทือน
เซอร์โวมอเตอร์มีข้อดีหลายประการ มีแรงบิดและความเร็วที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับสเต็ปเปอร์มอเตอร์ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่มีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ เซอร์โวมอเตอร์ยังมีการควบคุมที่แม่นยำ ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความแม่นยำและการทำซ้ำสูง เซอร์โวมอเตอร์ยังทนทานต่อปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น อุณหภูมิและแรงสั่นสะเทือน อย่างไรก็ตาม เซอร์โวมอเตอร์ก็มีข้อเสียเช่นกัน มีความซับซ้อนมากกว่าสเต็ปเปอร์มอเตอร์ โดยต้องมีระบบป้อนกลับและตัวควบคุม นอกจากนี้ ยังมีราคาสูงกว่าสเต็ปเปอร์มอเตอร์ ซึ่งอาจไม่เหมาะกับการใช้งานที่มีงบประมาณต่ำ
อย่างไรก็ตาม เซอร์โวมอเตอร์ก็มีข้อเสียเช่นกัน มีความซับซ้อนมากกว่าสเต็ปเปอร์มอเตอร์ โดยต้องมีระบบป้อนกลับและตัวควบคุม นอกจากนี้ ยังมีราคาสูงกว่าสเต็ปเปอร์มอเตอร์ ซึ่งอาจไม่เหมาะกับการใช้งานที่มีงบประมาณต่ำ
การใช้งาน
สเต็ปเปอร์มอเตอร์มักใช้กับงานที่มีความเร็วต่ำและมีความแม่นยำสูง เช่น เครื่องพิมพ์ 3 มิติ เครื่องจักร CNC และหุ่นยนต์ นอกจากนี้ยังใช้ในงานที่ต้องการการควบคุมตำแหน่งที่แม่นยำ เช่น การเคลื่อนที่กล้องและการวางตำแหน่งกล้องโทรทรรศน์
เซอร์โวมอเตอร์มักใช้กับงานความเร็วสูงและแรงบิดสูง เช่น หุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรม และเครื่องจักร CNC นอกจากนี้ยังใช้ในงานที่ต้องการความแม่นยำและความสามารถในการทำซ้ำสูง เช่น อุปกรณ์ทางการแพทย์ การบินและอวกาศ และการทหาร
การเลือกใช้งาน
เมื่อเลือกมอเตอร์สำหรับการใช้งานเฉพาะ สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาข้อกำหนดเฉพาะของการใช้งาน หากการใช้งานต้องการความแม่นยำสูงและต้นทุนต่ำ สเต็ปเปอร์มอเตอร์อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม หากการใช้งานต้องการความเร็วและแรงบิดสูง รวมถึงความแม่นยำและการควบคุมสูง เซอร์โวมอเตอร์อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า โดยสามารถดูได้จากตารางเปรียบเทียบด้านล่าง
สเต็ปเปอร์มอเตอร์ (Stepper motor) | เซอร์โวมอเตอร์ (Servo motor) | |
การทำงาน | วงเปิด (Open loop) | วงปิด (Close loop) |
แรงบิด | ต่ำ | สูง |
ความเร็ว | จำกัด | สูง |
ความแม่นยำ | สูง | สูง |