ประเภทและการใช้งาน ชะแลง (Crowbar)

ชะแลงปลายงอ มีลักษณะเป็นท่อนเหล็กตรงปลายแบนโดยที่ปลายด้านหนึ่งจะโค้งงอคล้ายคอห่านหรือตะขอซึ่งมาพร้อมกับร่องถอนตะปู สำหรับใช้การสอดและงัดวัตถุ ส่วนปลายอีกฝั่งจะโค้งเพียงเล็กน้อยเหมาะกับการแซะร่องและขุดหลุมตามพื้น นิยมใช้ในงานก่อสร้าง คลังสินค้า โกดังเก็บของ หรือโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อทุ่นแรงในการเปิดตู้คอนเทนเนอร์ หรือใช้งัดรื้อไม้พาเลท เป็นต้น

ชะแลงปลายแหลม ลำตัวของชะแลงมีลักษณะเป็นท่อนเหล็ก ตรงปลายด้านหนึ่งแหลมคม และปลายอีกด้านมีลักษณะแบนซึ่งมีให้เลือกใช้ทั้งแบบงอและแบบตรง โดยด้านปลายแหลมจะใช้สำหรับการเจาะทำลายเป็นหลัก ส่วนปลายแบนจะใช้ในการแซะตามร่องชิ้นงาน ร่องผนัง หรือกำแพงต่างๆ จึงเหมาะสำหรับใช้ในงานก่อสร้าง นอกจากนี้ยังถูกนำไปใช้ในงานสวนและงานเกษตรอีกด้วย

ชะแลงเล็บเหยี่ยว ปลายด้านหนึ่งของชะแลงมีรูปร่างคล้ายกับเล็บเหยี่ยว โดยปลายแหลมทำมุม 45 องศา หรือมุม 90 องศา และปลายอีกด้านมีให้เลือกใช้งานทั้งแบบปลายแหลมและปลายแบนเรียบ
ตัวอย่างการใช้งาน
ชะแลงเล็บเหยี่ยวแบบปลายแหลม เหมาะสำหรับงานเจาะทำลายเป็นหลัก รวมถึงในงัดตามจุดต่างๆ ได้ตามต้องการ ชะแลงเล็บเหยี่ยวแบบปลายแบนเรียบ เหมาะสำหรับการแซะตามร่องและการงัดคิ้วบัวออกจากผนัง ทั้งนี้ปลายแบนจะมาพร้อมกับร่องสำหรับถอนตะปูอีกด้วย

ชะแลงล้อ หรือชะแลงงัดเครื่องจักร เป็นชะแลงอีกชนิดที่มีลักษณะเป็นท่อเหล็กยาวปลายแบนพร้อมกับติดตั้งล้อหมุนไว้ตรงปลาย มีความแข็งแรงและทนทานสูง สามารถใช้งัดวัตถุที่มีน้ำหนักมากได้ ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายกับคานงัดที่สามารถใช้ยกและลากวัตถุสิ่งของขนาดใหญ่ได้ด้วยการสอดปลายชะแลงเข้าใต้ฐานของวัตถุและงัดขึ้นได้ทันที เหมาะสำหรับใช้ในทุ่นแรงยกและลากในงานขนย้ายสิ่งของหนักต่างๆ

• หลังใช้งานเสร็จแล้วให้ทำความสะอาดปลายชะแลงทุกครั้ง เพื่อป้องกันการกัดกร่อนจากการฝังแน่นของคราบสกปรก
• ไม่ควรนำชะแลงเก็บรวมกับเครื่องมือที่มีขนาดเล็กกว่า เพราะอาจทำให้เครื่องมือเหล่านั้นได้รับความเสียหายและเสื่อมสภาพการใช้งานได้
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับน้ำหรือความชื้นเป็นเวลานาน
• ควรจัดเก็บไว้ในที่แห้งและพื้นที่ปิดมิดชิด หรือพื้นที่ที่มีความปลอดภัย เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุต่อบุคคลหรือความเสียหายต่อทรัพย์สิน